เฟืองเกลียวแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เฟืองเกลียวเฟืองเอียงซึ่งเพลาขนาดใหญ่และเพลาขนาดเล็กตัดกัน อีกแบบหนึ่งคือเฟืองเกลียวเอียงแบบไฮปอยด์ ซึ่งมีระยะห่างระหว่างเพลาขนาดใหญ่และเพลาขนาดเล็กที่ต่างกัน เฟืองเกลียวเอียงใช้กันอย่างแพร่หลายในสาขาระบบส่งกำลังทางกล เช่น ยานยนต์ การบิน และเหมืองแร่ เนื่องจากมีข้อดี เช่น ค่าสัมประสิทธิ์การเหลื่อมซ้อนสูง ความสามารถในการรับน้ำหนักสูง อัตราทดเกียร์สูง ระบบส่งกำลังราบรื่น และเสียงรบกวนต่ำ ลักษณะเด่นของเฟืองเกลียวเอียงมีดังนี้
1. เฟืองเอียงตรง: เส้นฟันเป็นเส้นตรงที่ตัดกันที่จุดยอดของกรวย ทำให้ฟันหดตัว
2. เฟืองเอียงเกลียว: เส้นฟันเป็นเส้นตรงและสัมผัสถึงจุดทำให้ฟันหดตัว
3. เฟืองเกลียวเอียง: เฟืองที่หดได้ (เหมาะสำหรับเฟืองที่มีความสูงเท่ากัน)
4. เฟืองเกลียวไซคลอยด์: ฟันรูปทรง
5. เฟืองเกลียวเอียงศูนย์องศา: ฟันทดรอบคู่ βm=0 ใช้แทนเฟืองเกลียวเอียงตรง ซึ่งมีเสถียรภาพดีกว่า แต่ไม่ดีเท่าเฟืองเกลียวเอียง
6. เฟืองเอียงศูนย์องศาแบบฟันไซคลอยด์: ฟันคอนทัวร์ βm=0 ใช้แทนเฟืองเอียงตรง ซึ่งมีเสถียรภาพดีกว่า แต่ไม่ดีเท่าเฟืองเอียงแบบเกลียว
7. ประเภทความสูงของฟันของเฟืองเกลียวเอียงแบ่งออกเป็นฟันลดขนาดและฟันที่มีความสูงเท่ากัน ฟันลดขนาดได้แก่ ฟันลดขนาดที่มีระยะห่างหัวไม่เท่ากัน ฟันลดขนาดที่มีระยะห่างหัวเท่ากัน และฟันลดขนาดสองเท่า
8. ฟันคอนทัวร์: ฟันของปลายใหญ่และปลายเล็กมีความสูงเท่ากัน โดยทั่วไปใช้ในเฟืองเอียงแกว่ง
9. ฟันหดตัวแบบไม่มีช่องว่างไอโซโทป: จุดยอดของกรวยย่อย กรวยด้านบน และกรวยรากฟันจะตรงกัน